อัตชีวประวัติพระครูรัตนรังษี
อัตชีวประวัติพระครูรัตนรังษี
หลวงปู่พุ่มเกิดในปี พ.ศ.๒๔๐๐ ณ ข้างวัดสนามแดง อำเภอบางพลี 
จังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาได้บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดไทร 
พออายุครบบวช หลวงปู่พุ่มได้ อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่
วัดโปรดเกศเชษฐาราม  อำเภอพระประแดงโดยมีพระณาณสังวร (ช้าง) 
เป็นพระอุปัฌาย์บวชให้ได้รับฉายาว่า "จันทโชโตหรือจันทโชติ์ "   
หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์วัตร
เพื่อหาความวิเวกในป่าเพื่อเจริญวิปัสนากรรมฐาน
จนมีสมาธิวิทยาคมเข้มขลังจึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดไทร 
ท่านได้เรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์คง เจ้าอาวาสวัดบางโคล่นอก 
มุ่งปฏิบัติธรรมสมาธิและตั้งมั่นอยู่ในธรรมวินัย
(บัญญัติขององค์พระศาสดา)โดยเคร่งครัด เมื่อพระอาจารย์คง       
เจ้าอาวาสวัดบางโคล่นอกมรณะภาพ ทางคณะสงฆ์มองเห็นถึง
การปฏิบัติของหลวงปู่พุ่มอันน่าเลื่อมใส
จึงมีมติขอให้ท่านมาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางโคล่นอก 
เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ด้วยผลงานอันดีเด่นและ
เป็นเลิศด้านการปฏิบัติธรรมของท่านหลวงปู่พุ่ม
จึงได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระปลัดพุ่ม 
เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๔
ต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัฌาย์
รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูรัตนรังษี 
ที่ทุกท่าน  ได้ยินจนมาถึงปัจจุบันนี้  
ในสมัยนั้นทางวัดไทรและวัดบางโคล่ใน(วัดเรืองยศสุทราราม)
ยังไม่มีเจ้าอาวาสมาดำรงตำแหน่ง
หลวงปู่พุ่มจึงได้เป็นเจ้าอาวาสรักษาการณ์แทนในระยะหนึ่ง ท่านจึงดูแลรับผิดชอบถึง
๓  วัด หลวงปู่พุ่มได้รับผ้ากราบจากสมเด็จพระสังฆราช
(แพ) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งยกย่องหลวงปู่ว่า 
หลวงพ่อพุ่มนั้นชำนาญทางด้านวิปัสนาธุระเป็นอย่างมาก
ในขณะนั้นหลวงปู่พุ่มมีอายุ ๖๕ ปี
หลวงปู่พุ่มเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระวินัย มีศีลาจารวัตร  เจริญวิปัสนากรรมฐาน  ปฎิบัติธรรมเป็นพระภิกษุที่ชาวบ้านให้ความเคารพเลื่อมใสและ ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่เป็นผู้มีเมตตาธรรมให้แก่ ประชาชนทั้งบ้านใกล้และบ้านไกล  เป็นที่พึ่งทางใจ  เมื่อมีความทุกข์หรือเดือดร้อนการเจ็บไข้ได้ป่วย  หรือต้องการให้เกิดลาภยศสรรเสริญสุขแก่ตัวเองและ ครอบครัวชาวบ้านจะเข้าไปหาหลวงปู่เพื่อขอศีลขอพร หลวงปู่พุ่มจึงเป็นที่พึ่งและเป็นที่เคารพของประชาชนชาววัดไทร ทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่  หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดไทรหลายปีและ ได้ช่วยพัฒนาวัดไทรร่วมกับหลวงพ่อสุ่น อดีตเจ้าอาวาสวัดไทร นอกจากนี้ท่านยังเป็นหนึ่งใน 10 รูปของพระคณาจารย์ของ สมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์อีกด้วย (จากคำบอกเล่าของหม่อมเจ้าหญิงเริงจิตรแจรงอาภากร พระธิดา)   
หลวงปู่พุ่มมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ และมีการฌาปนกิจศพของท่าน ณ วัดบางโคล่นอก เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๘ รวมสิริอายุได้ ๘๙ ปี ๖๙ พรรษา (นับจากปี พ.ศ.ที่ท่านเกิดจนถึงปีพ.ศ.ที่มีการฌาปนกิจศพของท่าน)
เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ คณะสงฆ์ ประชาชนชาววัดไทรและสาธุชนที่เลื่อมใสในหลวงปู่พุ่ม ได้ร่วมเททองหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่พุ่มขนาดเท่าองค์จริง เพื่อให้สาธุชนได้นมัสการกราบไหว้บูชา เนื่องจากก่อนที่หลวงปู่พุ่มจะมรณภาพ ท่านได้พูดกับศิษยานุศิษย์ว่า “เมื่อฉันสิ้น จะมาอยู่ที่นี่” เพราะวัดไทรเป็นวัดที่ร่มรื่น       
ปัจจุบันในวันสงกรานต์แต่ละปี  ทางวัดไทรได้อัญเชิญอาราธนารูปเหมือนหลวงปู่พุ่มจากวิหาร  มาประดิษฐาน ณ เต๊นท์ปรัมพิธี เพื่อให้สาธุชนได้นมัสการกราบ ไหว้บูชาเป็นงานประจำปีของวัดมาจนถึงปัจจุบันนี้